“กระจูด” เป็นพืชตระกูลกกที่ถูกคัดเลือกให้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างสรรค์เครื่อง จักสานอันทรงคุณค่า ทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย จากเส้นกระจูดที่เล็กและเหนียว กลายเป็นเสื่อกระจูดแปรรูปเป็นของใช้ของตกแต่งได้หลากหลาย จนกระทั่งทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์กระจูดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นได้กลายเป็นที่ ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์กระจูดจึงไม่เพียงสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนเท่านั้น แต่ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกระจูด ยังเป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ให้ประเทศด้วยการเสียภาษีอย่างถูกต้องอีก ด้วย
ผลิต | จำหน่าย | ส่งออก |
---|---|---|
จดทะเบียน: สหกรณ์ นิติบุคคล วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มบุคคลอื่นๆ | ||
ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร | ||
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (หากมีรายได้จากการขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี) | ||
ออกใบกำกับภาษี (กรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) |
ลงทะเบียน Paperless | |
ออกใบกำกับภาษี (กรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) |
ขั้นตอนพิธีการส่งออก | |
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ | ขอยกเว้นภาษี | |
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (กรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) |
จัดทำรายงานภาษี | |
ยื่นแบบฯ และเสียภาษี |
จุดเริ่มต้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ "กระจูด" อาจเป็นเพียงอาชีพเสริมของเกษตรกรในภาคใต้หรือพื้นที่อื่นๆ ที่มีสภาพภูมิอากาศเหมาะสมสำหรับการเติบโตของพืชตระกูลกก แต่การรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนในหลายพื้นที่ได้ประสบความสำเร็จจนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกระจูดให้กลายเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงติดอันดับ OTOP 5 ดาว และสามารถส่งออกไปทำตลาดยังต่างประเทศได้
แต่ก่อนที่จะเดินทางไปถึงขั้นนั้น ก้าวแรกที่จะทำให้ธุรกิจนี้เข้มแข็งก็คือ การเรียนรู้ระบบภาษีซึ่งนอกจากจะช่วยให้มีเงินจากภาษีไปพัฒนาประเทศแล้ว ธุรกิจของคุณยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากภาครัฐอีกด้วย
หากจะผลิตสินค้าจากกระจูด ไม่ว่าจะเป็นเสื่อ กระเป๋า หมวก ของใช้ หรือของตกแต่งอื่นๆ ด้วยการรวมกลุ่มกันในชุมชนในลักษณะของ วิสาหกิจชุมชน สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ การจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ที่สำนักงานเกษตรอำเภอหรือเขต พร้อมกันนี้ ควร จดทะเบียน OTOP กับสำนักพัฒนาชุมชนด้วย จากนั้นต้อง ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร รวมถึง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ของกรมสรรพากร (กรณีมีรายได้จากการขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี หรือหากรายได้ไม่เกินนี้แต่ต้องการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน เพื่อต่อยอดสู่การนำเข้า-ส่งออก ก็สามารถจดทะเบียนได้) เพียงเท่านี้ คุณก็ก้าวผ่านขั้นแรกของการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับธุรกิจของคุณแล้ว
หลังจากจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร รวมถึงจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะเข้าสู่กระบวนการผลิตซึ่งเริ่มตั้งแต่การนำกระจูดมาตากแดด ย้อมสี และสานขึ้นรูป ซึ่งเป็นศิลปะและภูมิปัญญาท้องถิ่นของแต่ละชุมชน
เมื่อสิ้นสุดกระบวนการผลิต ก้าวต่อไปคือการจัดจำหน่ายเพื่อรับผลตอบแทนเป็นรายได้ ซึ่งในขั้นตอนนี้ คุณมีภารกิจสำคัญคือ การจัดทำ รายงานภาษีขาย รายงานสินค้าและวัตถุดิบ และ รายงานแสดงรายได้และรายจ่าย โดยการลงรายการนั้นให้ลงภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่จำหน่าย เพื่อใช้สำหรับการชำระ ภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้ คุณสามารถยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีต่อกรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ในเขตท้องที่ หรือง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว Click
ซึ่งนอกจากการเสียภาษีให้แก่ภาครัฐแล้ว คุณยังสามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ถือเป็นประโยชน์ส่วนหนึ่งจากการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ตรงตามกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ผลิต" "จำหน่าย"
เสน่ห์ของเสื่อกระจูดและผลิตภัณฑ์จากกระจูด ไม่เพียงแต่ถูกใจชาวไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินจากกระเป๋าของชาวต่างชาติได้อีกด้วย ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้หลายรายจึงเริ่มส่งผลิตภัณฑ์จากกระจูดไปทำตลาดนอกประเทศ
ปี | ประเภท | มูลค่าการส่งออก (ล้านบาท) |
---|---|---|
2553 | การส่งออก | 551,753.33 |
2554 | การส่งออก | 57,270.00 |
2555 | การส่งออก | 15,008.10 |
รวมทั้งหมด | 624,031.43 |
และการเป็นผู้ประกอบการส่งออกก็แค่เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการ ลงทะเบียนขอเป็นผู้ผ่านพิธีการศุลกากรแบบ Paperless ก็สามารถเข้าสู่พิธีการส่งออกสินค้าได้เลย (อ๊ะๆ อย่าลืมนะว่าก่อนจะลงทะเบียน Paperless คุณต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน นั่นคือ ผ่านการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมาแล้ว) แต่ที่สำคัญต้องไม่ลืมจัดทำ รายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย รายงานสินค้าและวัตถุดิบ และยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้
ผลิตภัณฑ์จากกระจูดถือเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นไทย วัตถุดิบหลักจึงหาได้ในประเทศ
แต่หากคุณคิดจะ นำเข้าวัตถุดิบ บางชนิดเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าจาก "กระจูด" ของคุณ เช่น สีย้อม ด้าย หรืออื่นๆ ก็สามารถทำได้ เพียงแต่คุณต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน (จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมาแล้ว) ต้อง ลงทะเบียนขอเป็นผู้ผ่านพิธีการศุลกากรแบบ Paperless และเข้าสู่ พิธีการนำเข้า โดยต้องศึกษา พิกัดศุลกากร ของสินค้าที่จะนำเข้าให้ดีเพราะต้องนำมาคำนวณภาษีที่คุณต้องจ่ายก่อนนำสินค้าเข้าประเทศ
รายการ | พิกัดศุลกากร | อัตราอากรขาเข้า |
---|---|---|
กระจูด | 1401.90.00 | 30% |
เสื่อกระจูด | 4601.99.10 | 30% |
เครื่องจักสาน | 4602.19.00 | 30% |
**ค้นหาพิกัดอัตราศุลกากรเพิ่มเติมได้ที่ http://igtf.customs.go.th/igtf/th/main_frame.jsp
รวมทั้งคุณต้อง จัดทำรายงานภาษีซื้อ และรายงานสินค้าและวัตถุดิบ เพื่อประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไปด้วย
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ส่งออก"
หากคุณทำธุรกิจผลิตและจำหน่าย “ผลิตภัณฑ์กระจูด” ในฐานะวิสาหกิจชุมชนที่ไม่ใช่นิติบุคคล และมีรายได้จากการขายสินค้าไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกรมสรรพากรโดย ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ติดตามได้ที่ "คู่มือภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน" )
นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจของคุณในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs โดย การลดอัตราภาษี หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมในอัตราเร่ง และ การคิดรายจ่ายที่หักได้มากกว่า 1 เท่า และในกรณีที่คุณส่งออกผลิตภัณฑ์จากกระจูดไปจำหน่ายในต่างประเทศ คุณยังมีสิทธิได้รับ การชดเชยค่าภาษีอากร อีกด้วย
สิทธิประโยชน์สำหรับวิสาหกิจชุมชนนั้น กรมสรรพากรมีกำหนดยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่วิสาหกิจชุมชนเฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคลสำหรับรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 – 31 ธันวาคม 2556 เท่านั้น
** สิทธิประโยชน์ทางภาษีของธุรกิจ SMEs
เครื่องดื่มประเภท “น้ำชา” นอกจากช่วยดับกระหายคลายง่วงแล้ว ...
ร้านขายอะไหล่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ หรือรถจักรยานเป็นธุรกิจที่ได้ผลดีจากการเพิ่มจำนวน...
คนไทยมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟกันมาช้านาน ตั้งแต่ในยุคอดีตที่เป็นกาแฟชงในถุง ...
ผลิตภัณฑ์ปลาร้านับว่าเป็นอาหารแปรรูปที่เริ่มขยับจากธุรกิจในระดับครัว เรือนหรือธุรกิจขนา...
ร้านถ่ายเอกสาร” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหากอยู่ใกล้สถานศึกษา หรือใกล...
“การ์เม้นท์” หรืออุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งมีวงจรครอบคลุมตั้งแต...
โรงงานผลิตกระเป๋ามีความสามารถในการผลิตสินค้าได้หลากหลายรูปแบบตามความ ต้องการของลูกค้า เ...
“กระจูด” เป็นพืชตระกูลกกที่ถูกคัดเลือกให้เป็นวัตถุดิบสำคัญ...
ร้านขายดอกไม้” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากดอกไม้สามารถใช้...
ลูกชิ้นปลา... อาหารว่างที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในบ้านเราเสมอมา เนื่อง...
ความนิยมของ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร”หรือที่เราเรียกอย่างติดปากว่า “อาห...
ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก “อาหารฮาลาล” ของชา...
“เครื่องถมและเครื่องเงินลงยา” เป็นงานประณีตศิลป์ชั้นสูงอีก...
ธุรกิจนำเที่ยว” คือการให้บริการนำนักท่องเที่ยว เดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ...
ธุรกิจบริการทำความสะอาดรถจะมีการให้บริการในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ล้างรถ ดูดฝุ่น ขัดสี เ...
ปลากะตัก” สัตว์น้ำเศรษฐกิจของผู้ประกอบการแนว ชายฝั่งอันดามัน ถือเป็นอาหารสุขภาพชั...
ผ้าทอลายขิด เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยที่สืบทอดกันมาช้านาน ผ้าทอลายขิ...
ธุรกิจ “รถรับจ้าง” คือ ธุรกิจที่ให้บริการรถเช่าเหมาคัน (มักเป็นรถตู้หรือรถก...
วัสดุก่อสร้างมีอยู่หลากหลายกลุ่ม ได้แก่ ปูนซีเมนต์, กระเบื้องหลังคา, อิฐบล็อก, ทราย,ท่อ...
“ปลากระป๋อง” อาหารแปรรูปบรรจุกระป๋องที่รับประทานง่ายและหาซ...