ขนมไทยที่เราคุ้นเคยกันดี นอกจากเป็นของที่มีคุณค่าแล้ว ในเชิงมูลค่า “ขนมไทย” ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยพยุงฐานะทางเศรษฐกิจในครอบครัวได้ ช่วยท้องถิ่นให้ดีขึ้นด้วยการซื้อหาวัตถุดิบใกล้ตัว ที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การเติบโตของตลาดขนมไทยนั้นยังมีโอกาสและช่องทางอีกมากด้วยเอกลักษณ์ความ เป็นไทยและรสชาติแสนอร่อย
รับรองว่าเพียงแต่คุณเติมความรู้เข้าไปในการผลิต ใส่ความคิดสร้างสรรค์ ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ขนมไทยจะสามารถสร้างรายได้หลักล้านให้คุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ... เอาล่ะ จะทำธุรกิจขนมไทยอย่างไรให้เวิร์ค “เสียภาษีอย่างไรให้ถูกต้อง” รู้ก่อนทำก่อนได้เลย
เมื่อสูตรการทำขนมพร้อม ใจพร้อม ลุยทำตลาดขนมไทยกันเลย
อย่างแรกในการประกอบธุรกิจผู้ประกอบการควรกำหนดเป้าหมายว่าเราจะผลิตขนมไทยเพื่อใคร จะผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศหรือส่งขนมไทยส่งออกไปขายต่างประเทศกันดี
แต่อย่างไรก็ดีขั้นตอนแรกก่อนที่จะเริ่มค้าขาย ผู้ประกอบการทุกคนต้อง
เมื่อจะผลิตเพื่อจำหน่ายอย่างจริงจังแล้ว คุณต้องมาเพิ่มความรู้ที่นอกเหนือจากเสน่ห์ปลายจวัก นั่นก็คือ เรื่อง มาตรฐานสินค้าทั้ง GMP และ HACCP ซึ่งเป็นมาตรฐานทางด้านความปลอดภัยทางอาหาร ดำเนินการพิจารณาโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
หรือถ้าหากพิจารณาแล้วเห็นทีจะต้องส่งขนมไทยไปโกอินเตอร์ให้ได้ ต้องสนับสนุนเรื่องเทคโนโลยีเพื่อมายืดอายุขนมให้ยาวนานขึ้น ขนมไทยของคุณจะได้ไปอวดโฉมทั่วโลกชนิดไม่แคร์วันเวลากันได้แล้ว
ขนมไทย... แน่นอนว่าผลิตในประเทศไทย แต่หากคุณคิดจะนำเข้าวัตถุดิบบางอย่างจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ขนมของคุณดูแตกต่างจากผู้ประกอบการเจ้าอื่น คุณต้องเกี่ยวข้องกับกรมศุลกากรแล้วล่ะ โดยคุณต้อง ลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกตามระบบพิธีการศุลกากรนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (Paperless) กับกรมศุลกากร ซึ่งลงทะเบียนครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อทำ พิธีการนำเข้าทางศุลกากร ตามด่านศุลกากรหรือช่องทางที่นำเข้ามา ได้แก่ ทางอากาศ ทางเรือ ทางบก หรือทางไปรษณีย์ และต้อง จัดทำรายงานภาษีซื้อ และ รายงานสินค้าและวัตถุดิบ ด้วย
**ค้นหาพิกัดอัตราศุลกากรเพิ่มเติมได้ที่ http://igtf.customs.go.th/igtf/th/main_frame.jsp
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ผลิต" "นำเข้า"
ตลาดต่างประเทศสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ขนมไทยได้หลายเท่าตัว หากสินค้าของคุณดีจริงโอกาสเป็นเศรษฐีจากขนมไทยก็เรียกได้ว่าไม่ยากเลย เพราะนอกจากความอร่อย วัฒนธรรมไทยที่อยู่ในขนมคือมนต์เสน่ห์ชูโรงสำคัญที่ชาวต่างชาติต่างก็อยากลิ้มลอง
โดยขั้นตอนการส่งออกขนมไทยนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ถ้าผลิตภัณฑ์ของคุณได้มาตรฐานอยู่แล้วเพียงแต่ผู้ประกอบการ ตรวจสอบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร และ ขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า สำนักบริการการค้าต่างประเทศ (กรมการค้าระหว่างประเทศ)
จากนั้นก็ยื่นขอเอกสารการรับรองเพิ่มเติมตามที่ผู้นำเข้าประเทศต้องการแล้วเข้าสู่ พิธีการศุลกากร (หากไม่เคยลงทะเบียนเป็นผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกมาก่อน ต้องลงทะเบียนฯ กับกรมศุลกากรก่อนส่งออกขนมไทยไปจำหน่ายยังต่างประเทศ) เท่านี้ก็ส่งออกได้สบายๆ แล้ว
การส่งสินค้าออกจากประเทศไทยต้องผ่านพิธีการส่งออกตามกระบวนการปกติ โดยสินค้าทั้งหมดที่ส่งออกจากประเทศไทยต้องรายงานและผ่านพิธีการทางศุลกากร
บทบาทของกรมศุลกากรในเรื่องการส่งออกสินค้าคือการทำให้แน่ใจว่ามีการ รายงานสินค้าส่งออกจากประเทศไทยตามที่กรมศุลกากรกำหนด และควบคุมเรื่องใบอนุญาตสำหรับสินค้าบางประเภท นอกจากนี้กรมศุลกากรยังทำหน้าที่เก็บข้อมูลการส่งออกเพื่อช่วยให้รัฐบาลและ อุตสาหกรรมต่างๆนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายและตัดสินใจในเรื่องต่างๆ
ก่อนบรรทุกสินค้าในเรือหรือเครื่องบินเพื่อการส่งออก กรมศุลกากรต้องได้รับข้อมูลของสินค้าดังกล่าว และอนุญาตให้ส่งออกได้ ข้อมูลการส่งออกส่วนใหญ่ส่งด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Export
เอกสารที่จำเป็นในการยื่นเพื่อดำเนินพิธีการทางศุลกากรเพื่อส่งออกสินค้าประกอบด้วย
หลังจากนั้น freight forwarder พิมพ์ใบกำกับการขนย้ายที่ระบุหมายเลข และเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังท่าที่ส่งออก ในขั้นนี้ ข้อมูลของสินค้าถูกตรวจสอบความถูกต้องโดยละเอียดเพื่อระบุว่าสินค้าดังกล่าว ต้องผ่านการเปิดตรวจ (Red Line) หรือยกเว้นการตรวจ (Green Line) หากเป็นใบขนฯ ยกเว้นการตรวจจะใช้เวลาน้อยมาก ขณะที่สินค้าที่ต้องเปิดให้ตรวจจะถูกเคลื่อนย้ายเพื่อเตรียมให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจ
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ส่งออก"
ยอดขายหรือรายได้ที่คุณได้รับจากธุรกิจขนมไทยนั้น ทำให้คุณจะต้องทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี โดยยื่นแบบแสดงรายการภาษีพร้อมชำระภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ได้แก่ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา/นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้ คุณสามารถยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีต่อกรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ในเขตท้องที่ หรือง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว Click
ซึ่งนอกจากการเสียภาษีให้แก่ภาครัฐแล้ว คุณยังสามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ถือเป็นประโยชน์ส่วนหนึ่งจากการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ตรงตามกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด
สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจชุมชน หรือ SMEs จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจรายย่อยในอีกทางหนึ่ง
ติดตามได้ที่ "คู่มือภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน"
** สิทธิประโยชน์ทางภาษีของธุรกิจ SMEs
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "จำหน่าย"
ของสะสม ของเก่า ของโบราณ จัดว่าเป็นสิ่งของที่มีอายุขัยมายาวนาน ซึ่งมีมูลค่าสูง
ห...
ส่วนใหญ่คนนิยมเปิดร้านเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ขนาดเล็กเพราะใช้เงินลงทุนน้อย และมักจำหน...
“กล้วยไม้” ถือเป็นสินค้าส่งออกที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็น...
“การ์เม้นท์” หรืออุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งมีวงจรครอบคลุมตั้งแต...
ขนมเบเกอรี่” เป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทุกวัย ถ้าผู้ที่สนใจ ในธุรกิ...
ธุรกิจร้านให้เช่ารถมักนิยมเปิดให้บริการในเขตเมืองท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ, เชียงใหม่, ภู...
หินอ่อนและหินแกรนิต เป็นสินค้าที่จัดอยู่ในประเภทหินประดับ ก่อให้เกิดมู...
ซอสปรุงรส เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรุงแต่งรสชาติอาหารของเราให้อร่อยกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมยิ...
“เครื่องปั้นดินเผา” เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย ที่นำดินมาปั้...
ในการประกอบกิจการนอกเหนือจากความถนัดในวิชาชีพแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความรัก เ...
ผ้าขนหนู” มีหลากหลายประเภท ซึ่งแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์การใช้งานอาทิ ผ้าเ ช็ดตัว...
“เซรามิก” หรือเครื่องเคลือบดินเผา เป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่...
“เครื่องประดับเงิน” เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดจากรุ...
ธุรกิจร้านอาหาร” มีอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องจากอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มนุษย์ จำ...
ในสมัยก่อน นักพัฒนาโปรแกรม (Program) หรือซอฟท์แวร์ (Software) ที่ใช้กับเครื่อง คอมพิวเต...
ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก “อาหารฮาลาล” ของชา...
“อุ” เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำที่แสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของ...
"ดอกไม้ประดิษฐ์" งานฝีมือจากสมองและสองมือของคนไทย กลายเป็นอา...
เครื่องดื่มประเภท “น้ำชา” นอกจากช่วยดับกระหายคลายง่วงแล้ว ...
“ผ้าทอเกาะยอ” หรือ “ผ้าเกาะยอ”...