คลินิกภาษีน้ำมันเหลือง

“น้ำมันเหลือง” ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรคุณภาพเยี่ยม สรรพคุณที่ใช้ดม ทา นวด เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ไม่เป็นรองยาแผนปัจจุบัน กระบวนการผลิตก็ไม่ยุ่งยากใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น ราคาย่อมเยา... กินขาดยาแผนปัจจุบันขนานเดียวกันไปเลย ที่สำคัญคือ “กระบวนการด้านภาษี” ไม่ซับซ้อน ดังนั้น ผู้ประกอบการไม่ปวดหัวจนต้องใช้น้ำมันเหลืองช่วยบรรเทาอาการแน่นอน

ดาวน์โหลด

PDF

เปิดใน

Flipbook

ให้คะแนนสินค้านี้

ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (เมื่อมีรายได้จากการขายเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี)
นำเข้า ผลิต จำหน่าย ส่งออก
ลงทะเบียน Paperless ขออนุญาตผลิตยาแผนโบราณ ฉลาก/เครื่องหมายการค้า(อย.) ลงทะเบียน Paperless
ขั้นตอนพิธีการนำเข้า ขอผลิตยาตัวอย่าง ทะเบียนการค้า(พาณิชย์จังหวัด) ขั้นตอนพิธีการส่งออก
ขอมาตรฐาน อย. ขอขึ้นทะเบียนตำรับยา เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (พัฒนาชุมชน) ขอมาตรฐาน อย.
จัดทำรายงานภาษี ฉลาก/เครื่องหมายการค้า (อย.) ออกใบกำกับภาษี
(กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
จัดทำรายงานภาษี
ยื่นแบบฯ และเสียภาษี ทะเบียนการค้า (พาณิชย์จังหวัด) ยื่นแบบฯ และเสียภาษี
  เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (พัฒนาชุมชน)  
  จัดทำรายงานภาษี
(กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
 
  ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้  
  ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม
(กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
 

"น้ำมันเหลือง" คืออะไร

น้ำมันเหลือง เป็นเครื่องมือในการรักษาตามแบบฉบับของแพทย์แผนไทยที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ทำขึ้นมาจากพืชสมุนไพร เช่น การบูร และหัวของพืชตระกูลขิงชนิดต่างๆ กัน โดยผู้ผลิตน้ำมันเหลืองส่วนใหญ่จะเก็บสูตรของตนไว้เป็นความลับ

น้ำมันเหลืองของไทย เช่น ใน จ.ตราด มีคุณสมบัติไม่เหมือนใคร จากสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกชุก และเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ทำให้ได้พืชวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตคุณภาพเยี่ยม ผ่านกระบวนการผลิตที่แม่นยำ ประกอบไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%

การเข้าสู่ธุรกิจน้ำมันเหลือง

  1. ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล)
  2. หากมีรายได้เกิน 1.8 ล้ายบาทต่อปีต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือหากไม่เกินสามารถยื่นจดทะเบียนไว้เพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน)
  3. ขอทะเบียนการค้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (ตามที่ตั้งโรงงาน)
  4. ยื่นคำขอสถานที่ผลิตยา ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
  5. ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนตำรับยา ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
  6. จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า/ฉลาก กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
  7. ผลิต และจำหน่าย
  8. หากต้องการเป็นสินค้า OTOP สามารถสมัครเข้าคัดสรร "สุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย" ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนแต่ละอำเภอได้

ทั้งนี้ ในระหว่างกระบวนการผลิต ผู้ประกอบการจะต้อง จัดทำรายงานภาษี เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีตามรอบปีภาษี

และในกรณีที่คุณไม่ได้ใช้วัตถุดิบหรือพืชสมุนไพรภายในท้องถิ่นนของตัวเอง แต่เลือกที่จะแตกต่างด้วย "การนำเข้าวัตถุดิบ" จากประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศอื่นๆ คุณต้อง...

- ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

- ลงทะเบียนในระบบพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร (Paperless) โดยคุณไปลงทะเบียนเอง หรือมอบอำนาจให้ "ตัวแทนออกของ" ดำเนินการให้ ณ ฝ่ายทะเบียน ส่วนทะเบียนและสิทธิพิเศษ สำนักมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร กรมศุลกากร หรือที่ฝ่ายบริหารงานทั่วไปของสำนักหรือสำนักงานศุลกากรหรือด่านศุลกากร ซึ่งจะลงทะเบียนเฉพาะครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น

เคล็ดเล็กเกร็ดน้อย

ขั้นตอนการลงทะเบียน Paperless

  1. กรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียน
  2. ยื่นเอกสารลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ณ จุดที่ขอลงทะเบียน
  3. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแบบคำขอลงทะเบียนและเอกสารหลักฐาน
  4. หัวหน้าฝ่ายทะเบียนหรือหัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไปอนุมัติ

- ดำเนินการ "นำเข้าวัตถุดิบ" ผ่านพิธี การศุลกากรนำเข้าแบบไร้เอกสาร (e-Import) ตามระเบียบ พิธีการนำเข้า ของกรมศุลกากรทางช่องทางต่างๆ คือ ทางอากาศ ทางเรือ ทางบก และทางไปรษณีย์ อ๊ะๆ... อย่าลืมเช็ก พิกัดศุลกากร ของสิ่งที่คุณนำเข้าให้ดี เพื่อสะดวกในการชำระภาษีอากรขาเข้า

รายการ พิกัดศุลกากร อัตราอากรขาเข้า
ผลิตภัณฑ์น้ำมันเหลือง 1518.00.60 27% หรือ 0.75 บาท/Lit
น้ำมันหอมระเหยจากสาระแหน่ 3301.24.00 5%
น้ำมันงา (ดิบ) 1515.50.10 27% หรือ 0.75 บาท/Lit

**ค้นหาพิกัดอัตราศุลกากรเพิ่มเติมได้ที่ http://igtf.customs.go.th/igtf/th/main_frame.jsp

- ทุกขั้นตอนสามารถตรวจสอบโดยใช้ระบบ e -Tracking ได้ โดยเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ http://e-tracking.customs.go.th/

ทั้งนี้ การนำเข้าวัตถุดิบนั้นคุณต้องจัดทำ รายงานภาษีซื้อ และ รายงานสินค้าและวัตถุดิบ เพื่อประกอบการยื่นชำระภาษีด้วย

**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ผลิต" "นำเข้า"

ภาษี "การส่งออก" น้ำมันเหลือง

การส่งออกน้ำมันเหลืองที่ผลิตขึ้นจากภูมิปัญญาพื้นบ้านนี้... คุณต้อง

- ลงทะเบียนในระบบพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร (Paperless) โดยคุณไปลงทะเบียนเอง หรือมอบอำนาจให้ " ตัวแทนออกของ " ดำเนินการให้ (หากคุณ "นำเข้าวัตถุดิบ" มาผลิตน้ำมันเหลืองอยู่แล้ว แสดงว่าคุณได้ลงทะเบียนไว้แล้ว ดังนั้น ไม่ต้องลงทะเบียนอีกเพราะชื่อคุณได้อยู่ในระบบแล้ว)

ดำเนินการ “ส่งออก” น้ำมันเหลืองผ่าน พิธีการศุลกากรขาออก e-Export ตามระเบียบ พิธีการส่งออก ของกรมศุลกากรทางช่องทางต่างๆ คือ ทางอากาศ ทางเรือ ทางบก และ ทางไปรษณีย์

(ทั้งนี้... สินค้าส่งออกของไทยส่วนใหญ่ จะมีอัตราอากรเป็น 0% หรือสินค้าบางอย่างจะได้รับ ยกเว้นภาษี ส่งออก และบางกรณีสามารถทำการ ขอคืนภาษี ได้ในภายหลัง)

การส่งออกน้ำมันเหลืองนั้นคุณต้องจัดทำรายงานภาษีเช่นเดียวกับการนำเข้า หรือกระบวนการผลิต เพื่อใช้ประกอบการ ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี ต่อไป ได้แก่ รายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย และรายงานสินค้าและวัตถุดิบ ซึ่งมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรายงานของคุณ ดังนี้

  • Invoice
  • Packing List
  • สำเนาใบขนสินค้าขาออก
  • หลักฐานการรับชำระเงิน
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ส่งออก"

เมื่อมีรายได้จากการ "จำหน่าย"

การผลิตน้ำมันเหลืองออกจำหน่ายจนมีรายได้เข้าสู่ระบบธุรกิจของคุณแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือ ยื่นแบบแสดงรายการภาษีพร้อมเสียภาษีที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

- ภาษีเงินได้ เมื่อมีรายได้การขายผลิตภัณฑ์น้ำมันเหลือง ทั้งขายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ คุณก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ตามรูปแบบธุรกิจ คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล

- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในกระบวนการผลิตน้ำมันเหลือง ไม่ว่าจะการปลูก ผลิต บรรจุ ขนส่ง ฯลฯ ต้องมีการว่าจ้างแรงงานเข้ามาเกี่ยวข้อง กระบวนการด้านภาษีที่ต้องดำเนินการในขั้นตอนนี้ คือ เมื่อคุณจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง และสวัสดิการให้กับพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงาน ต้องมีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ทุกครั้ง

- ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากคุณต้องซื้อหรือนำเข้าพืชสมุนไพร หรือวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อผลิตน้ำมันเหลือง เช่น ปุ๋ย วัสดุอุปกรณ์ ขวดบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ราคาที่คุณซื้อมักบวกภาษีมูลค่าเพิ่มมาแล้ว เท่ากับว่าคุณเป็นผู้เสียภาษีในส่วนนี้ และเมื่อถึงคราวที่จะต้องขายผลผลิตของคุณบ้าง การตั้งราคาขายอาจมีการบวกภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปได้ ซึ่งลูกค้าของคุณจะกลายเป็นผู้เสียภาษีนี้แทน แต่ที่สำคัญคือคุณต้อง ออกใบกำกับภาษีหรือบิลเงินสด ให้ลูกค้าไว้เป็นหลักฐานด้วย

 

ทั้งนี้ คุณสามารถยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีต่อกรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ในเขตท้องที่ หรือง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว Click

ซึ่งนอกจากการเสียภาษีให้แก่ภาครัฐแล้ว คุณยังสามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ถือเป็นประโยชน์ส่วนหนึ่งจากการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ตรงตามกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด

ข่าวดีภาษีน่ารู้

สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจชุมชน หรือ SMEs จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจรายย่อยในอีกทางหนึ่ง

ติดตามได้ที่ "คู่มือภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน"

** สิทธิประโยชน์ทางภาษีของธุรกิจ SMEs

**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "จำหน่าย"

คนไทยที่ดีต้องเสียภาษีเพื่อพัฒนาประเทศ

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลภาษีสินค้า อื่นๆ