คลินิกภาษีผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์

"ดอกไม้ประดิษฐ์" งานฝีมือจากสมองและสองมือของคนไทย กลายเป็นอาชีพสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจสำคัญ และกลายเป็นสินค้าส่งออกที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย เพราะไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุชนิดใด หากเป็นฝีมือคนไทยแล้วไซร้ ย่อมสวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก

ดาวน์โหลด

PDF

เปิดใน

Flipbook

ให้คะแนนสินค้านี้

ภาพรวมการจัดเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์
ตามขั้นตอนการนำเข้า ผลิต จัดจำหน่ายในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ

กระบวนการ หน่วยงาน
จัดเก็บภาษี
ภาษีที่จัดเก็บ ขั้นตอนสำคัญ
การนำเข้า
กรมสรรพากร
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ศุลกากรจัดเก็บแทน)
- การขอมีเลขบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
- จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ตามกฎหมายกำหนด)
- การจัดทำรายงานภาษี
- การยื่นแบบฯ (ใบขนฯ)

กรมศุลกากร
ภาษีศุลกากร
(นำเข้า)
- การลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ พิธีการนำเข้าทางอิเล็กทรอนิคส์ (e-Import) (เฉพาะการนำเข้าครั้งแรก)
- การผ่านพิธีการนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์
การผลิต และจำหน่ายในประเทศ
กรมสรรพากร
ภาษีเงินได้
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
- การขอมีเลขบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
- จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ตามกฎหมายกำหนด)
- การจัดทำรายงานภาษี/บัญชี
- การยื่นแบบแสดงรายการ
การส่งออก
ต่างประเทศ

กรมศุลกากร
ภาษีศุลกากร
(ส่งออก)
- การผ่านพิธีการส่งออกทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Export)

กรมสรรพากร
ภาษีเงินได้
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
- การขอมีเลขบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
- การจัดทำรายงานภาษี/บัญชี
- การยื่นแบบแสดงรายการ
- จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ตามกฎหมายกำหนด)

ดอกไม้ประดิษฐ์ คิดต่าง...โตเร็ว

"ดอกไม้ประดิษฐ์" เกิดจากการนำวัสดุรอบตัวมาสร้างสรรค์ให้เกิดความสวยงาม ที่นับวันจะมีการนำเอาวัสดุแปลกใหม่มาใช้ในการประดิษฐ์ ให้เป็นทางเลือกเพื่อปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะการประยุกต์หรือแปรรูปคุณค่าจากต้นไม้ใบหญ้า หรือแม้แต่กระดูกของสัตว์บางชนิด คนไทยก็สรรหามาคิดและทำออกมาให้สวยงามจนได้ และนั่นก็คือการสร้างสรรค์งานฝีมือที่แปลกใหม่และอยู่ในกระแส จนเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างไม่เสื่อมคลาย

ประดิดประดอยความรู้

ประเภทของ "ดอกไม้ประดิษฐ์"

แบ่งตามวัสดุที่ใช้ ดังนี้
  • ดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ: ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก สามารถนำมาทำดอกไม้ประดิษฐ์ได้ 15 ประเภท ได้แก่ ยางพาราและใบยางพารา / รังไหม / เกล็ดปลา / ต้นโสน / ผักตบชวา / ใบลาน / กาบหมาก / ใยบวบ / เปลือกข้าวโพด / รกมะพร้าว / ใบกล้วย / ฝักประดู่ / หนังแท้ / ดอกไม้แห้งหรือใบไม้แห้ง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นไม้ทุกชนิด / จากธรรมชาติอื่น เช่น เปลือกหอย ขนไก่ หรือกระดูกสัตว์บางชนิด
  • ดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุแปรรูป: มีวัสดุแปรรูปที่สามารถนำมาผลิตดอกไม้ประดิษฐ์ ได้แก่ กระดาษสา หรือกระดาษอื่น / ผ้าชนิดต่างๆ เช่น ผ้าออร์แกนซา ผ้าแพรเยื่อไม้ ผ้าปอบปลิน ผ้ากำมะหยี่ ผ้าสักหลาด ผ้าหนังเปียก ผ้ามัสลิน ผ้าโพลีเอสเตอร์ ฯลฯ / ดินผสม ได้แก่ ดินญี่ปุ่น ดินไทย / เซรามิค / โลหะ / แก้ว / หนังเทียม / เม็ดพลาสติก / วัสดุแปรรูปอื่น

จะเห็นได้ว่าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์นี้ เกิดจากวัสดุหลักอันหลากหลาย ซึ่งมีทั้งที่สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นและภายในประเทศ แต่ก็มีบางส่วนเช่นกันที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างรายได้จากการประกอบธุรกิจหลากหลายรูปแบบ คือ

  • นำเข้าดอกไม้ประดิษฐ์สำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายในประเทศเพียงอย่างเดียว
  • นำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อจำหน่ายในประเทศ และ/หรือส่งออกต่างประเทศ
  • ใช้วัตถุดิบในประเทศผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และ/หรือส่งออกต่างประเทศ
  • เป็นผู้ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเพียงอย่างเดียว

ซึ่งทุกรูปแบบการดำเนินธุรกิจข้างต้น คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยกระบวนการต่อไปนี้...

  • จดทะเบียนพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งการประกอบกิจการขายสินค้าอะไร อย่างเดียวหรือหลายอย่างก็ตาม หากคิดรวมทั้งสิ้นในวันหนึ่งขายได้เป็นเงินตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป หรือมีสินค้าดังกล่าวไว้เพื่อขายมีค่ารวมทั้งสิ้นเป็นเงินตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ต้องจดทะเบียนพาณิชย์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 30 วันนับแต่วันเริ่มประกอบกิจการ
  • ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร กับกรมสรรพากร ไม่ว่าจะทำในรูปแบบบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล เพื่อใช้ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี การชำระภาษี การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย การติดต่อราชการกับกรมสรรพากรรวมทั้งการจัดทำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การจัดทำใบกำกับภาษี การจัดทำใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
  • จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หากคุณมีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี แน่นอนว่าคุณต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน (หากไม่เกินก็ขอจดทะเบียนเพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนได้เช่นกัน)

ต่อจากนี้... การต่อยอดธุรกิจ ไม่ว่าจะนำเข้าวัสดุ หรือดอกไม้ประดิษฐ์สำเร็จรูปเพื่อจัดจำหน่าย หรือส่งออก ก็สบายใจไม่ต้องไปทำขั้นตอนต่างๆ อีกหลายรอบ ก้าวต่อไปก็พร้อมจะลุยหาตลาดและสรรหาความแปลกใหม่ให้โดดเด่นเลย

เส้นทางเศรษฐกิจ ด้วยดอกไม้ประดิษฐ์จากธรรมชาติ

เมื่อต้องการนำเข้า

ประดิดประดอยความรู้

ลักษณะการดำเนินกิจการนำเข้า

  1. การนำวัตถุดิบเข้ามาเพื่อจำหน่ายในประเทศ
  2. การนำวัตถุดิบเข้ามาเพื่อผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์แล้วจำหน่ายในประเทศ
  3. การนำวัตถุดิบเข้ามาเพื่อผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์แล้วจำหน่ายส่งออกไปต่างประเทศ
  4. การนำดอกไม้ประดิษฐ์เข้ามาเพื่อจำหน่ายในประเทศ

การเริ่มต้นธุรกิจนำเข้า ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม คุณจะต้อง ลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกตามคู่มือระบบพิธีการศุลกากรนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (Paperless) จากนั้นทำการศึกษาเรื่อง พิกัดศุลกากร ที่เกี่ยวข้อง เช่น พิกัดของวัสดุที่นำเข้า หรือวัสดุของผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุต่างๆ เป็นต้น เพื่อจดตัวเลข 8 หลัก มาใช้ในการประเมินราคาการเสียภาษี (อากรขาเข้า) ตามกฎหมาย

เช่น ต้องการนำเข้าดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำจากพลาสติก ตามพิกัดเบื้องต้นแล้วจะต้องเสียภาษี 30% และจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ของมูลค่าสินค้า ซึ่งหากเปรียบเทียบกับสัดส่วนของผลกำไรที่จะไปบวกเพิ่มแล้ว ยังมีรายได้อีกเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

รายการผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์ พิกัดศุลกากร อัตราอากรขาเข้า
ทำด้วยพลาสติก 6702.10.00 30%
ทำด้วยวัสดุอื่นๆ 6702.90.00 30%

**ค้นหาพิกัดอัตราศุลกากรเพิ่มเติมได้ที่ http://igtf.customs.go.th/igtf/th/main_frame.jsp

เมื่อดำเนินการเรียบร้อย ควรพยายามติดตามและศึกษารสนิยมผู้บริโภคในตลาดเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทำให้ต้องทำความเข้าใจการดำเนินการเกี่ยวกับการนำเข้า และการเสียภาษีให้ถูกต้อง ทั้งยังต้อง จัดทำรายงานภาษีซื้อ และรายงานสินค้าและวัตถุดิบ เพื่อประกอบการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีต่อไปด้วย

ประดิดประดอยความรู้

กรณีนำเข้าโดยสั่งซื้อวัตถุดิบจากโรงงาน: หากโรงงานสามารถออกเอกสาร ‘form E’ ให้ได้ จะทำให้ภาษีขาเข้าลดเหลือ 0% จะเหลือเพียงภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ถือเป็นกำลังใจดีๆ ที่ภาครัฐคืนสู่ผู้ประกอบการอย่างคุณ

**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "นำเข้า"

สร้างรากฐานการผลิต ต่อยอดธุรกิจเพื่ออนาคต

ประดิดประดอยความรู้

ลักษณะการดำเนินกิจการผลิตและจำหน่าย
  1. นำวัตถุดิบเข้ามาเพื่อผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อจำหน่ายในประเทศ
  2. ซื้อวัตถุดิบในประเทศแล้วมาผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อจำหน่ายในประเทศ
  3. รับคำสั่งผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์โดยผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม

สร้างรากฐานการผลิต ต่อยอดธุรกิจเพื่ออนาคต

ลักษณะการดำเนินกิจการผลิตและจำหน่าย
  1. นำวัตถุดิบเข้ามาเพื่อผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อจำหน่ายในประเทศ
  2. ซื้อวัตถุดิบในประเทศแล้วมาผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อจำหน่ายในประเทศ
  3. รับคำสั่งผลิตเป็นดอกไม้ประดิษฐ์โดยผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม

เนื่องจากการผลิตดอกไม้ประดิษฐ์นี้เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นหลัก และโรงงานส่วนใหญ่มีขนาดธุรกิจประมาณขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ประเภทกิจการในครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นการรวมกลุ่มของแม่บ้านในท้องถิ่น โดยส่วนหนึ่งจะทำการผลิตและจำหน่ายเอง อีกส่วนหนึ่งเป็นการรับคำสั่งผลิตจากโรงงานอื่นๆ ตามเทศกาลสำคัญ

สำหรับโรงงานขนาดใหญ่ที่เน้นผลิตเพื่อการส่งออก มักมีแหล่งที่ตั้งโรงงาน คุณจึงควรติดต่อเรื่องการก่อสร้างโรงงานให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งผู้ประกอบการจะมีทั้งขอรับการส่งเสริมการลงทุน หรือไม่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน อันจะมีผลต่อการเสียภาษีของกรมสรรพากร

แต่หากเป็นสินค้านำเข้าแล้วขายไป เพียงแค่ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม รายงานภาษีขาย รายงานภาษีซื้อ และรายงานสินค้าและวัตถุดิบ จากกรมสรรพากร เพื่อจัดทำรายงานและเก็บรักษาหลักฐาน ใช้ในการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีให้ครบถ้วน

**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ผลิต"

จับแนวทางธุรกิจ กำหนดทิศทางการจำหน่าย

ธุรกิจเริ่มมีความน่าสนใจเมื่อช่องทางจำหน่ายเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น คุณสามารถจำหน่ายดอกไม้ประดิษฐ์ได้ทั้งในกลุ่มร้านดอกไม้ หรือจำหน่ายให้กับผู้ส่งออกรายใหญ่ ซึ่งอาจจะมีการปรับเพิ่มกลยุทธ์ด้วยการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าโดยการออกแบบชิ้นงานให้มีความโดดเด่น และการนำเสนอสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ภายใต้การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพช่วยลดต้นทุน... เท่านี้ทุนก็ไม่หาย กำไรก็งอกงามแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อมีรายได้จากการจำหน่าย คุณจึงมีภาระภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนี้

  • ภาษีเงินได้ เมื่อมีรายได้การขายผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์ทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ คุณก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ตามรูปแบบธุรกิจ คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในกระบวนการผลิตดอกไม้ประดิษฐ์นั้น ต้องมีการว่าจ้างแรงงานเข้ามาเกี่ยวข้อง กระบวนการด้านภาษีที่ต้องดำเนินการในขั้นตอนนี้คือ เมื่อคุณจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง และสวัสดิการให้กับพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงาน ต้องมีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ทุกครั้ง
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากคุณต้องซื้อหรือนำเข้าวัสดุตั้งต้นในการทำดอกไม้ประดิษฐ์ หรือดอกไม้ประดิษฐ์สำเร็จรูป หรือวัตถุดิบอื่นๆ ราคาที่คุณซื้อมักบวกภาษีมูลค่าเพิ่มมาแล้ว เท่ากับว่าคุณเป็นผู้เสียภาษีในส่วนนี้ และเมื่อถึงคราวที่จะต้องขายผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์ของคุณบ้าง การตั้งราคาขายอาจมีการบวกภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปได้ ซึ่งลูกค้าของคุณจะกลายเป็นผู้เสียภาษีนี้แทน แต่ที่สำคัญคือคุณต้อง ออกใบกำกับภาษีหรือบิลเงินสด ให้ลูกค้าไว้เป็นหลักฐานด้วย

พร้อมทั้งต้อง จัดทำรายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย และรายงานสินค้าและวัตถุดิบ เพื่อประกอบการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีด้วย

ทั้งนี้ คุณสามารถยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีต่อกรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ในเขตท้องที่ หรือง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว Click

ซึ่งนอกจากการเสียภาษีให้แก่ภาครัฐแล้ว คุณยังสามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ถือเป็นประโยชน์ส่วนหนึ่งจากการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ตรงตามกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด

ประดิดประดอยความรู้

การจัดทำรายงานภาษี

  • รายงานภาษีซื้อ เอกสารหลักฐานประกอบการลงรายงาน คือ "ใบกำกับภาษี"
  • รายงานภาษีขาย เอกสารหลักฐานประกอบการลงรายงาน คือ "สำเนาใบกำกับภาษี"
  • รายงานสินค้าและวัตถุดิบ เอกสารหลักฐานประกอบการลงรายงาน คือ "สำเนาใบกำกับภาษี" และ "ใบกำกับภาษี"

**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "จำหน่าย"

ประชันฝีมือดอกไม้ประดิษฐ์ไทย ส่งออกไปตลาดโลก

เนื่องจากรสนิยมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน และถึงแม้ตอนนี้จีนจะเป็นประเทศผู้ผลิตดอกไม้ประดิษฐ์รายสำคัญที่น่าจับตามอง บวกกับตลาดส่งออกดอกไม้ประดิษฐ์มีแนวโน้มที่ยังเติบโตได้ คุณจึงควรให้ความสำคัญกับคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ เพื่อถนอมความสดใหม่ของสินค้าเป็นสำคัญ

โดยเฉพาะตลาดขนาดใหญ่อย่าง สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป มีความต้องการใช้ดอกไม้ประดิษฐ์เพิ่มมากขึ้นทุกปี หากเรามีสินค้าที่สวยงามเหมือนจริง มีการเปลี่ยนแปลงแปลกใหม่ รวดเร็ว ดอกไม้ประดิษฐ์ของไทยในอนาคต อาจกลายเป็นผู้ส่งออกรายสำคัญอันดับแรกใน AEC และติดอยู่ในกลุ่มผู้ส่งออกรายสำคัญ 10 อันดับแรกของโลกก็เป็นได้

มองเห็นภาพในอนาคตแล้ว ใครมีรายได้ตามกำหนดที่จะต้องชำระภาษี ก็อย่าลืมไปแสดงตัวนะ เพราะการทำธุรกิจไม่ใช่การรับทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่คุณมีหน้าที่เสียภาษีด้วย

ประดิดประดอยความรู้

ลักษณะการดำเนินกิจการส่งออก

การดำเนินกิจการผลิตหรือรับจ้างผลิตดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะประกอบกิจการในลักษณะโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม จะมีจำนวนน้อยที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

ซึ่งการผลิตเพื่อส่งออก จะเป็นไปในลักษณะดังต่อไปนี้

ส่งสินค้าออกนอกไปต่างประเทศและหมายความรวมถึง...

  • การนำสินค้าในประเทศเข้าไปในเขตปลอดอากรเฉพาะสินค้าที่ต้องเสียอากรขาออก หรือที่ได้รับยกเว้นอากรขาออกตามกฎหมาย
  • การขายสินค้าของคลังสินค้าทัณฑ์บน ประเภทร้านค้าปลอดอากร ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ที่ขายให้แก่ผู้ที่เดินทางออกไปนอกประเทศ (ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด)

ซึ่งก่อนจะทำการส่งออกผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์ คุณจะต้องทำการผ่าน พิธีการส่งออก โดยส่งข้อมูลเพื่อจัดทำใบขนสินค้าขาออกผ่านระบบพิธีการส่งออกทางอิเล็กทรอนิกส์ และจะต้อง มีการจัดทำรายงานภาษี บัญชีรายงานภาษีซื้อ ผ่าน "ใบกำกับภาษี" และรายงานภาษีขาย รายงานสินค้าและวัตถุดิบ ซึ่งในการลงรายการให้ลงภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่ได้มา หรือจำหน่ายออกไปซึ่งสินค้าหรือบริการ พร้อมยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย

**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ส่งออก"

ข่าวดีภาษีน่ารู้

สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจชุมชน หรือ SMEs จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจรายย่อยในอีกทางหนึ่ง

ติดตามได้ที่ "คู่มือภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน"

** สิทธิประโยชน์ทางภาษี ของธุรกิจ SMEs

คนไทยที่ดีต้องเสียภาษีเพื่อพัฒนาประเทศ

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลภาษีสินค้า อื่นๆ