นำเข้า | ผลิต | จำหน่าย | ส่งออก |
---|---|---|---|
จดทะเบียน: บุคคลธรรมดา นิติบุคคล หรือกลุ่มบุคคลอื่นๆ | |||
จดทะเบียนภาษีสรรพสามิต (ได้รับการยกเว้นฯ) |
|||
ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร | |||
ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (เมื่อมีรายได้จากการขายเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี) | |||
ลงทะเบียน Paperless | แจ้งวันเวลาทำการผลิต (ได้รับการยกเว้นฯ) |
ออกใบกำกับภาษี (กรณีผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) |
ลงทะเบียน Paperless |
แจ้งราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม (ได้รับการยกเว้นฯ) |
จัดทำรายงานภาษี (กรณีผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) |
||
ขั้นตอนพิธีการนำเข้า | จัดทำบัญชีประจำวัน (ได้รับการยกเว้นฯ) |
ขั้นตอนพิธีการส่งออก | |
ชำระภาษีอากร (ศุลกากรจัดเก็บแทน) |
จัดทำงบเดือน (ได้รับการยกเว้นฯ) |
ยื่นคำขอยกเว้นและคืนภาษีสรรพสามิต (ได้รับการยกเว้นยื่นคำขอ) |
|
ชำระภาษีสรรพสามิต (ศุลกากรจัดเก็บแทน แต่ได้รับการยกเว้นฯ) |
ชำระภาษีสรรพสามิต (ปัจจุบันยกเว้นภาษี) |
จัดทำรายงานภาษี | |
จัดทำรายงานภาษี | ยื่นแบบภาษีเงินได้ | ยื่นแบบภาษีเงินได้ | |
ยื่นแบบภาษีเงินได้ | ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) |
ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม | |
ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม |
จุดเริ่มต้นธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิตในประเทศไทยนั้น ในส่วนของหินอ่อนเริ่มมีการผลิตในประเทศเมื่อปี 2499 ในเขต จ.สระบุรี ก่อนจะค่อยๆ ขยายการผลิตไปพื้นที่จังหวัดอื่น จนถึงปัจจุบันมี แหล่งผลิตหินอ่อนที่สำคัญอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่หินแกรนิตเริ่มผลิตในประเทศเมื่อปี 2529 มีแหล่งผลิตที่สำคัญของประเทศอยู่บริเวณภาคเหนือ
ทั้งหินอ่อนและหินแกรนิตที่ผลิตในประเทศไทยจะมีสีสันและลวดลายที่แตกต่างกันออกไปตามแหล่งผลิต ตอบสนองลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลาย ทั้งยังมีการนำเข้าหินอ่อนและหินแกรนิตที่มีสีสันและลวดลายเฉพาะตัวจากต่างประเทศอีกด้วย จะเห็นได้ว่าธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิตนั้นมีเส้นทางที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งผลิตและจำหน่ายในประเทศ นำเข้า ส่งออก
ดังนั้น หากคุณต้องการที่จะเข้าสู่วงการค้าหินอ่อนและหินแกรนิตแล้ว ก่อนอื่นลองศึกษารูปแบบธุรกิจและการเสียภาษีอย่างถูกต้องกันสักเล็กน้อยเพื่อปูทางสู่ความสำเร็จในธุรกิจนี้
กระบวนการ | หน่วยงาน จัดเก็บภาษี |
ภาษีที่จัดเก็บ | ขั้นตอนสำคัญ |
---|---|---|---|
การเปิดกิจการ | กรมสรรพากร |
- การขอมีเลขบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร - การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม |
|
กรมศุลกากร จัดเก็บภาษีสรรพสามิต แทนกรมสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่มแทน กรมสรรพากร |
ภาษีศุลกากร (นำเข้า) |
- การลงทะเบียนเข้าสู่ระบบพิธีการนำเข้าทางอิเล็กทรอนิคส์ (e-Import) (เฉพาะการนำเข้าครั้งแรก) - การผ่านพิธีการนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์ |
|
การนำเข้า | กรมสรรพสามิต |
ภาษีสรรพสามิต (ศุลกากรจัดเก็บแทน) |
- การชำระภาษีสรรพสามิต |
กรมสรรพากร |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ศุลกากรจัดเก็บแทน) |
- การจัดทำรายงานภาษี - การยื่นแบบแสดงรายการ (ใบขนฯ) |
|
การผลิต และจำหน่ายในประเทศ | กรมสรรพสามิต |
ภาษีสรรพสามิต | - การจดทะเบียนภาษีสรรพสามิต - การแจ้งการผลิตและการขาย - การชำระภาษีสรรพสามิต |
กรมสรรพากร |
ภาษีเงินได้ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
- การจัดทำรายงานภาษี/บัญชี - การยื่นแบบแสดงรายการ |
|
การส่งออก ต่างประเทศ |
กรมสรรพสามิต |
ภาษีสรรพสามิต | - ขอยื่นคำขอยกเว้นและคืนภาษี |
กรมศุลกากร |
ภาษีศุลกากร (ส่งออก) |
- การผ่านพิธีการส่งออกทางอิเล็กทรอนิคส์ (e-Export) | |
กรมสรรพากร |
ภาษีเงินได้ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
- การจัดทำรายงานภาษี/บัญชี - การยื่นแบบแสดงรายการ |
หากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิต สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การจดทะเบียนธุรกิจซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเป็นกิจการแบบใด เช่น เป็นกิจการที่ดำเนินการโดยบุคคลธรรมดา กลุ่มบุคคล หรือนิติบุคคล จากนั้นก็ยื่นขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร รวมถึงจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร
ซึ่งการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนี้จะกระทำในกรณีที่คุณมีรายได้จากการขายเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี แต่หากรายได้จากยอดขายของคุณไม่เกินนี้คุณก็สามารถยื่นจดทะเบียนเพื่อขอเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณต้องการหรือคาดการณ์ว่าจะมีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าอันเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิตของคุณแล้วละก็ คุณมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ว่าในจุดประสงค์ใด จะต้องจัดทำรายงานภาษีเพื่อใช้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรด้วย
การจดทะเบียนธุรกิจ | |
---|---|
บุคคลธรรมดา | จดทะเบียนได้ที่ อบต./เทศบาล พาณิชย์จังหวัด |
นิติบุคคล | จดทะเบียนได้ที่ สำนักพัฒนาธุรกิจ พาณิชย์จังหวัด |
SMEs | จดทะเบียนได้ที่ สำนักพัฒนาธุรกิจ พาณิชย์จังหวัด |
สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิตที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ นอกเหนือจากการขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร รวมถึงจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรแล้ว เมื่อคุณจะเริ่มผลิตและจำหน่ายหินอ่อนและหินแกรนิตในประเทศ คุณจะได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต พร้อมทั้งไม่ต้องดำเนินการแจ้งวันเวลาทำการผลิต แจ้งราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม ทำบัญชีประจำวันและ งบเดือน รวมถึงการยื่นแบบและชำระภาษีสรรพสามิต
หินอ่อนและหินแกรนิต เป็นสินค้าที่กำหนดในพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 ตอนที่ 8 สินค้าอื่นๆ ข้อ 08.09 (3) คือ มีการจัดเก็บภาษีตามมูลค่าในอัตราร้อยละ 30
ทั้งนี้ เป็นการจัดเก็บจากหินอ่อนและหินแกรนิตที่แปรรูปแล้ว แต่ในปัจจุบันได้รับการยกเว้นภาษี ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 42) ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2540 และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2540
พร้อมทั้งจัดทำรายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย รายงานสินค้าและวัตถุดิบ (กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยลงรายการภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ได้มาหรือจำหน่ายออกไปซึ่งสินค้าหรือบริการ และต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย
สำหรับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าจนมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นเสียภาษีมูลค่าเพิ่มโดยคำนวณภาษีที่ต้องเสียจาก ภาษีขาย หักด้วย ภาษีซื้อ
คุณสามารถทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี เสียภาษีประจำปี ตามรูปแบบในการจดทะเบียนดังนี้
ซึ่งนอกจากการเสียภาษีให้แก่ภาครัฐแล้ว คุณยังสามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ถือเป็นประโยชน์ส่วนหนึ่งจากการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ตรงตามกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด
ถึงแม้ว่าในประเทศจะมีการผลิตหินอ่อนและหินแกรนิตเองได้ก็ตาม แต่ความนิยมในคุณภาพหิน สี และลวดลายของหิน ที่ไม่สามารถหาได้ภายในประเทศก็ยังมีอยู่
ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิตบางส่วนจึงมีการนำเข้าหินจากต่างประเทศ ซึ่งคุณก็สามารถเรียนรู้ขั้นตอนการนำเข้าเบื้องต้นได้ เริ่มจากการลงทะเบียนในระบบพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร (Paperless) โดยลงทะเบียนเฉพาะครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการผ่านพิธีการนำเข้าสินค้า ทางด่านศุลกากรต่างๆ เช่น ทางอากาศยาน ทางเรือ ทางบก หรือทางไปรษณีย์ โดยในการนำเข้านั้น คุณต้องศึกษาพิกัดอัตราศุลกากรสินค้าขาเข้าหินอ่อนและหินแกรนิตให้ดี เพื่อประโยชน์ในการคำนวณอัตราอากรขาเข้าที่คุณต้องชำระ ภายใต้การดูแลของกรมศุลกากร
รายการ | พิกัดศุลกากร | อัตราอากรขาเข้า |
---|---|---|
หินอ่อน | 6802.91.10 | 30% หรือ3.75 บาท /kg |
หินแกรนิต | 6802.93.00 | 30% หรือ3.75 บาท /kg |
นอกจากนี้ คุณต้องจัดทำรายงานภาษีซื้อ รายงานสินค้าและวัตถุดิบและยื่นแบบแสดงรายการภาษีเพื่อเสียภาษีและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้นำเข้าด้วยการยื่นใบขนสินค้าขาเข้า ตามแบบที่อธิบดีกรมศุลกากรกำหนด ซึ่งกรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บภาษีแทนกรมสรรพากร และจัดเก็บภาษีสรรพสามิตหินอ่อนและหินแกรนิตแทนกรมสรรพสามิต (ปัจจุบันได้รับการยกเว้นภาษี)
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "นำเข้า"
หากคุณมีลูกค้าในต่างประเทศที่ต้องการหินอ่อนลายสวยๆ และหินแกรนิตคุณภาพดีจากเมืองไทย คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจส่งออกได้โดยลงทะเบียนขอเป็นผู้ผ่านพิธีการศุลกากรแบบ Paperless (หากเคยลงทะเบียนในการนำเข้าหินอ่อนและหินแกรนิต หรือเป็นผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกกับกรมศุลกากรอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนอีก)
จากนั้นเข้าสู่พิธีการส่งออกสินค้าได้เลย และที่สำคัญเมื่อมีรายได้จากธุรกิจส่งออกหินอ่อนและหินแกรนิตแล้ว คุณต้องไม่ลืมจัดทำรายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย รายงานสินค้าและวัตถุดิบ และยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้ เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งกลับมาพัฒนาประเทศด้วย
อย่าลืม! ตรวจสอบสิทธิ์ในการได้รับอัตราชดเชยจากการส่งออกหินด้วยนะ
**ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมที่ "ส่งออก"
นอกเหนือจากการยกเว้นภาษีสรรพสามิตในการนำเข้า-ส่งออกแล้ว หากธุรกิจหินอ่อนและหินแกรนิตของคุณเป็นธุรกิจในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือเอสเอ็มอี คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายของกรมสรรพากรที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีโดยการลดอัตราภาษี หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมในอัตราเร่ง และการคิดรายจ่ายที่หักได้มากกว่า 1 เท่า และในกรณีที่คุณส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ คุณยังมีสิทธิได้รับการชดเชยค่าภาษีอากรอีกด้วย ติดตามรายละเอียดได้ที่ "คู่มือภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน"
คำว่า “แพทย์ทางเลือก” ตามความหมายที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของสำ...
ธุรกิจร้านให้เช่ารถมักนิยมเปิดให้บริการในเขตเมืองท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ, เชียงใหม่, ภู...
ขนมไทยที่เราคุ้นเคยกันดี นอกจากเป็นของที่มีคุณค่าแล้ว ในเชิงมูลค่า “ขนมไทย”...
ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจแต่อยากมีธุรกิจเป็นของ ตนเอง อาจจ...
ผ้าขนหนู” มีหลากหลายประเภท ซึ่งแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์การใช้งานอาทิ ผ้าเ ช็ดตัว...
“น้ำพริก” อาหารพื้นเมืองที่มีอยู่ในสำรับกับข้าวคนไทยมาตั้ง...
ในปัจจุบันความต้องการใช้ ไม้ยางพารา ทั้งในด้านเป็นวัตถุดิบหรือใน การแป...
มักพบได้ตามแหล่งชุมชุนหรือหมู่บ้านต่างๆ โดยให้บริการอินเทอร์เน็ตและเกมออนไลน์ ต่างๆ โดย...
“เซรามิก” หรือเครื่องเคลือบดินเผา เป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่...
ร้านเสริมสวย” เป็นการให้บริการเสริมความงามให้แก่ผู้หญิงและผู้ชาย ประเภทของ บริการ...
เสียภาษี "เรื่องหมู...หมู"
เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 การยังชี...
“สปา” เป็นธุรกิจบริการประเภทส่งเสริมสุขภาพที่ได้รับความนิย...
วัสดุก่อสร้างมีอยู่หลากหลายกลุ่ม ได้แก่ ปูนซีเมนต์, กระเบื้องหลังคา, อิฐบล็อก, ทราย,ท่อ...
‘ไวน์ผลไม้” กำลังเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจ...
ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก “อาหารฮาลาล” ของชา...
จากสินค้าที่เป็นที่รู้จักและซื้อขายกันเฉพาะในท้องถิ่น ปัจจุบัน " มีดอรัญญิ...
"ผ้าฝ้าย" สินค้าในอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ทรงอิทธิพลต่อระบบเศรษฐก...
เครื่องดื่มประเภท “น้ำชา” นอกจากช่วยดับกระหายคลายง่วงแล้ว ...
สัตว์เลี้ยง หมายถึง สัตว์ที่เราเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ซึ่งมีมากมายหลายประเภท เ ช่น สุนัข, ...
ถั่ว เป็นแหล่งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตจากพืชที่สำคัญมากต่อร่างกายของเรา ซึ่งมีให้เลือกมากม...