คลินิกภาษีเครื่องปั้นดินเผา

“เครื่องปั้นดินเผา” เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย ที่นำดินมาปั้นเป็นภาชนะก่อนจะนำไปเผาไฟเพื่อให้เกิดความคงทน ในช่วงแรกเครื่องปั้นดินเผาที่ได้รับความนิยมมากก็คือ เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน เพราะคุณสมบัติของดินบริเวณด่านเกวียนเมื่อนำมาปั้นแล้วเผาด้วยไฟจะกลายเป็น สีแดง แต่ในปัจจุบันความนิยมของเครื่องปั้นดินเผานอกจากความคงทนแล้ว เรื่องสีสันและลวดลายเองก็เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

ดาวน์โหลด

PDF

เปิดใน

Flipbook

ให้คะแนนสินค้านี้

นำเข้า ผลิต จำหน่าย ส่งออก
จดทะเบียนธุรกิจ: นิติบุคคล หรือ กลุ่มบุคคลอื่นๆ
ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (กรณีมีรายได้จากการขายสินค้าเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี)
ลงทะเบียน Paperlesss ขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน และขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ออกใบกำกับภาษี
(กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ลงทะเบียน Paperless
ขั้นตอนพิธีการนำเข้า   จัดทำรายงานภาษี
(กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ขั้นตอนพิธีการส่งออก
จัดทำรายงานภาษี ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ยื่นขอยกเว้น/ขอคืนภาษี
ยื่นแบบภาษีเงินได้ ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม
(กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
จัดทำรายงานภาษี
ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม   ยื่นแบบภาษีเงินได้
    ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

“เครื่องปั้นดินเผา” สร้างงาน สร้างเงิน

การปั้นเครื่องปั้นดินเผา แม้จะไม่ยาก แต่ก็ต้องใช้ช่างฝีมือที่มีความรู้ความสามารถ ยิ่งชำนาญเท่าไร เครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตออกมาได้ก็จะยิ่งมีคุณภาพ รวมถึงจำนวนการผลิตต่อวันที่สูงมากขึ้นตามไปด้วย แต่ก่อนจะเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ศึกษาทำความเข้าใจเรื่องของภาษีเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ก้าวแรกสู่ธุรกิจ “เครื่องปั้นดินเผา”

การประกอบธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา ขั้นตอนแรกก็คือคุณต้อง จดทะเบียนธุรกิจ ตามรูปแบบที่คุณต้องการ เช่น เป็นกิจการที่ดำเนินการโดยบุคคลธรรมดากลุ่มบุคคล นิติบุคคล หรือวิสาหกิจชุมชนพร้อมทั้ง ขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และขอ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเสียก่อน

การจดทะเบียนธุรกิจ
บุคคลธรรมดา จดทะเบียนได้ที่ อบต./เทศบาล พาณิชย์จังหวัด
นิติบุคคล จดทะเบียนได้ที่ สำนักพัฒนาธุรกิจ พาณิชย์จังหวัด
วิสาหกิจชุมชน จดทะเบียนได้ที่ กรมส่งเสริมการเกษตร / เกษตรจังหวัด
สหกรณ์ จดทะเบียนได้ที่ สหกรณ์จังหวัด พาณิชย์จังหวัด
SMEs จดทะเบียนได้ที่ สำนักพัฒนาธุรกิจ พาณิชย์จังหวัด
กลุ่ม OTOP จดทะเบียนได้ที่ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขต

เมื่อจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นคุณก็ยื่น ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร รวมถึง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กับกรมสรรพากร ซึ่งการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนี้จะกระทำในกรณีที่คุณมีรายได้จากการขายเครื่องปั้นดินเผาเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี (หากไม่เกินก็ขอจดทะเบียนได้)

นอกจากนี้ คุณยังต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในกรณีที่คุณต้องการนำเข้า-ส่งออกสินค้าหรือวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของคุณด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ว่าในจุดประสงค์ใด เมื่อเริ่มดำเนินธุรกิจจะต้อง จัดทำรายงานภาษี เพื่อใช้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรด้วย โดยรายงานที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องจัดทำ คือ

ความรู้เกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้อง

ประเภทกิจกรรม
ที่กิจการเกี่ยวข้อง
กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลากร
ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ     การนำเข้า การส่งออก
บุคคล ธรรมดา/นิติบุคคล หัก ณ ที่จ่าย
นำเข้า ผลิต และจำหน่ายในประเทศ - - -
นำเข้า ผลิต จำหน่ายในประเทศ และส่งออก - -
ผลิต และจำหน่ายในประเทศ - - -
ผลิตและส่งออก - - -

ปั้นดินให้เป็นเงิน

หลังจากผ่านขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณและแรงงานฝีมือของคุณจะใส่ความคิดสร้างสรรค์และความชำนาญปั้นดินออกมาทำเงิน ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณมีกระบวนการทางภาษีที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ การจัดทำรายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย รายงานสินค้าและวัตถุดิบ และแบบรายงานการจัดทำคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (กรณีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม และยังต้อง ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กับกรมสรรพากรด้วย

ปั้นเติมเสริมรู้

ขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผา

  1. นำดินมาบดให้ละเอียดทำเป็นแท่ง (ใช้เครื่องบด)
  2. นำดินที่บดเป็นแท่งแล้ว นำมาขึ้นรูปโดยใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักร
  3. ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาแล้ว หากผลิตภัณฑ์บางอย่างต้องวาดลวดลาย จะนำมาวาดลวดลายก่อน
  4. นำผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นไปเผา ใช้เวลาการเผาประมาณ 2-3 วัน (แล้วแต่ขนาดของผลิตภัณฑ์)

เมื่อคุณผลิตเครื่องปั้นดินเผาออกวางจำหน่าย ภาษีที่เกี่ยวข้องกับรายได้ของคุณ ได้แก่

- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในกระบวนการจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผานั้น คุณอาจต้องมีการว่าจ้างแรงงาน ช่างปั้น และช่างฝีมืออื่นๆ ลูกจ้างชั่วคราว และ/หรือพนักงานประจำ ฯลฯ กระบวนการด้านภาษีที่ต้องดำเนินการในขั้นตอนนี้คือ เมื่อคุณจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง และสวัสดิการให้กับพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงาน รวมไปถึงการให้บริการ การโฆษณา การและขนส่ง กระบวนการทั้งหมดนี้ต้องมีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายทุกครั้ง โดยคุณมีหน้าที่หักภาษีและนำส่งต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการจ่ายเงินได้

การหักภาษี ณ ที่จ่าย

- ภาษีเงินได้ เมื่อมีรายได้จากการขายเครื่องปั้นดินเผา คุณก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ตามรูปแบบธุรกิจ คือ บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการคุณต้องทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี เสียภาษีประจำปี ตามรูปแบบในการจดทะเบียนดังนี้

- ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา ยื่นแบบชำระภาษีปีละ 2 ครั้ง แสดงรายการภาษีเดือนมกราคม-มิถุนายน ยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 เสียภาษีภายในเดือนกันยายนในแต่ละปี และแสดงรายการภาษีเดือนมกราคม-ธันวาคม ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 เสียภาษีภายในเดือนมีนาคมปีถัดไป

- ผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล ยื่นแบบชำระภาษีปีละ 2 ครั้ง

  1. ภาษีเงินได้ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี ยื่นแบบภ.ง.ด.51 เสียภาษีภายใน 2 เดือน นับแต่วันครบ 6 เดือนของรอบระยะเวลาบัญชี
  2. ภาษีเงินได้สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ยื่นแบบภ.ง.ด.50 เสียภาษีภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี

- ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากคุณต้องซื้อวัตถุดิบ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนผลิตเครื่องปั้นดินเผา ราคาที่คุณซื้อจะบวกภาษีมูลค่าเพิ่มมาแล้ว เท่ากับว่าคุณเป็นผู้เสียภาษีในส่วนนี้แล้ว และเมื่อถึงเวลาจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผา คุณสามารถตั้งราคาขายโดยบวกภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปได้ ซึ่งลูกค้าของคุณจะกลายเป็นผู้เสียภาษีนี้แทน แต่คุณต้อง ออกใบกำกับภาษีหรือบิลเงินสด ให้ลูกค้าไว้เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งคุณต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ก่อน เพราะผู้มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษีได้ ก็คือผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น

สำหรับกรณีที่เครื่องปั้นดินเผาสร้างรายได้จากยอดขายให้คุณมากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี คุณมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคำนวณภาษีที่ต้องเสียจาก ภาษีขาย หักด้วย ภาษีซื้อ

ปั้นเติมเสริมรู้

ภาษีขายและภาษีซื้อ

  • ภาษีขาย คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียน ได้เรียกเก็บ หรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการ ตามมาตรา 77/1(17)
  • ภาษีซื้อ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียน ถูกผู้ประกอบการ จดทะเบียนอื่นเรียกเก็บ และให้หมายความรวมถึง ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้เสียเมื่อนำเข้าสินค้า ตามมาตรา 77/1(18)
เช่น ขาย 200 บาท เก็บ vat 7 %
ซื้อสินค้า 100 บาท เสียvat 7%
= 14 บาท
= 7 บาท
ภาษีขาย = 14 บาท

ภาษีซื้อ = 7 บาท

ว่าด้วยเรื่อง “การนำเข้า”

หากคุณต้องการนำเข้าเครื่องจักร หรือวัตถุดิบ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตหรือเพิ่มคุณภาพของเครื่องปั้นดินเผา ต้องเริ่มขั้นตอนการนำเข้าด้วยการ ลงทะเบียนในระบบพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร(Paperless) ซึ่งลงทะเบียนเฉพาะครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการผ่าน พิธีการนำเข้าสินค้า ซึ่งต้องศึกษา พิกัดอัตราศุลกากรสินค้า ที่คุณจะนำเข้าให้ดี เพื่อประโยชน์ในการคำนวณภาษีหรือขอยกเว้นอัตราอากรขาเข้า

รายการ พิกัดศุลกากร อัตราอากรขาเข้า
เครื่องปั้นดินเผา 6914.90.00 30%

โดยในขั้นตอนการดำเนินการนี้ ผู้ประกอบการอาจมีรายการที่จะต้อง ชำระอากรขาเข้า พร้อมทั้งจัดทำ รายงานภาษีซื้อรายงานสินค้าและวัตถุดิบ (เฉพาะผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายสินค้า) ทั้งนี้ การลงรายการ ให้ลงภายใน 3 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ

“เครื่องปั้นดินเผา” ก้าวไกลสู่ต่างแดน

คุณภาพของสินค้าไทยยังคงได้รับความมั่นใจจากชาวต่างชาติอยู่ ด้วยความสวยงาม คงทน และราคาไม่สูงจนเกินไป ดังนั้น การส่งออกเครื่องปั้นดินเผาจึงเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่ช่วยสร้างกำไรให้กับผู้ประกอบการไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ผู้ที่สนใจส่งออกต้อง ลงทะเบียนขอเป็นผู้ผ่านพิธีการศุลกากรแบบ Paperless (หากเคยลงทะเบียนในการนำเข้าเครื่องปั้นดินเผา หรือสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกกับกรมศุลกากรอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนอีก)

หลังจากนั้นจึงเข้าสู่พิธีการส่งออกสินค้า อย่างไรก็ตาม คุณต้องไม่ลืมจัดทำ รายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย และรายงานสินค้าและวัตถุดิบ รวมทั้งยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ เพื่อช่วยกันนำเงินกลับไปพัฒนาประเทศ

ข่าวดี... ภาษีน่ารู้

สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจชุมชน หรือ SMEsจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจรายย่อยในอีกทางหนึ่ง

ทำตาม “หน้าที่” ช่วยกันเสียภาษีเพื่อพัฒนาประเทศ

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลภาษีสินค้า อื่นๆ