วามนิยมของ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” หรือที่เราเรียกอย่างติดปากว่า “อาหารเสริม” เติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากกระแสของคนในยุคปัจจุบันที่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ประกอบกับดารา นักร้อง นักแสดง ต่างก็หันมาทำอาชีพขายอาหารเสริมกันค่อนข้างมาก ซึ่งอาหารเสริมก็มีมากมายหลายผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันตับปลา สาหร่ายสกัด ผลิตภัณฑ์คอล- ลาเจน โคเอ็นไซม์คิวเท็น เป็นต้น
ในทางการแพทย์แล้วจัดให้ “ยา” มีความหมายที่แตกต่าง จาก “อาหารเสริม” กล่าวคือ “ยา” จะหมายถึง ผลิตภัณฑ์ ที่สามารถรักษาโรคหรืออาการเจ็บป่วยในผู้ป่วยซึ่งต้องได้รับการพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์และต้องผ่านขั้นตอนวิจัยและทดสอบเป็นเวลาหลายปี แต่ “อาหารเสริม” หมายถึง ผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้รับประทานนอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพหรือบำรุงร่างกายให้แก่ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ป่วย (จะเห็นได้ว่าอาหารเสริมจัดเป็น อาหารอย่างหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบำรุงร่างกาย ไม่ใช่รักษาโรคเหมือนยา) อาหารเสริม ส่วนใหญ่จะนำสารสกัดจากพืชธรรมชาติสัตว์เคมีสังเคราะห์ หรือแร่ธาตุหรือวิตามินเข้มข้นมา บรรจุในรูปยาเม็ด แคปซูล หรือของเหลว โดยสารเหล่านี้ต้องได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แล้วว่ามีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและต้องมีความปลอดภัยต่อมนุษย์ แต่ไม่มีผลงาน วิจัยหรือการทดลองที่ชัดเจนพอจะเป็นสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้
โดยในปัจจุบัน อุตสาหกรรมผลิตอาหารเสริมส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างผลิตในยี่ห้อของลูกค้า ซึ่งลูกค้าอาจมีสูตรสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะจ้างผลิตอยู่แล้ว หรืออาจจ้างให้โรงงานพัฒนาสูตร การผลิตให้กับยี่ห้อของลูกค้าก็ได้เช่นกัน โดยคิดราคาจากสูตรและปริมาณส่วนผสมที่ใส่ใน แต่ละสูตร ทั้งนี้ โรงงานผลิตอาหารเสริมมักกำหนดจำนวนการสั่งผลิตขั้นต่ำไว้เพื่อให้มีกำไร คุ้มกับต้นทุนการผลิตในแต่ละครั้ง แต่หากโรงงานกำหนดจำนวนขั้นต่ำไว้สูงมาก ก็อาจทำให้ มีลูกค้ามาว่าจ้างผลิตน้อยจนอาจทำให้โรงงานขาดทุนก็ได้
สูตรผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยทั่วไปมีความซับซ้อนน้อยกว่าสูตร ผลิตภัณฑ์ยาค่อนข้างมาก ลูกค้าส่วนใหญ่ จะว่าจ้างให้โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้โดยใช้สูตรการผลิตมาตรฐานของโรงงาน ซึ่งผ่านการคิดค้น วิจัยและพัฒนาโดยทีม นักวิทยาศาสตร์ของโรงงานแต่ลูกค้าสามารถ ปรับสูตรโดยอาจเพิ่มสัดส่วนของสารอาหาร เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีขึ้น (แต่ต้องได้รับ การพิสูจน์ว่า ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มนุษย์)
วัตถุดิบ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารมีค่อนข้างหลากหลายเช่นกัน แต่ในปัจจุบันโรงงานจะใช้วัตถุดิบในรูปแบบ ของสารสกัด เช่น สารสกัดจากปลา สารสกัด จากสาหร่าย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรและ เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้ได้สารสกัดที่ปลอด จากเชื้อโรคและคงคุณภาพไว้อย่างครบถ้วน
เมื่อต้องการเริ่มธุรกิจผลิตอาหารเสริม ผู้ประกอบการสามารถจดทะเบียนธุรกิจได้ ตามรูปแบบของกิจการและสามารถเข้าสู่ ระบบภาษีได้ โดยการขอมีเลขประจำตัว ผู้เสียภาษีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และใน กรณีที่มีเงินได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ก็จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น ผู้ประกอบการจดทะเบียนด้วย และในกรณีที่ผู้ประกอบการต้องการ จัดตั้งโรงงานผลิต ผู้ประกอบการต้องขอ อนุญาตตั้งโรงงานอุตสาหกรรมจากกรม โรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทั้งขออนุญาตจัดตั้งสถานที่ผลิตอาหาร ขอมาตรฐานการผลิตอาหารตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร และขออนุญาต ผลิตภัณฑ์อาหารจากสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา หรือสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดแห่งท้องที่ที่สถานประกอบกิจการ ตั้งอยู่ด้วย
หากมีการนำวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ ในการประกอบธุรกิจเข้ามาจากนอกประเทศ เรามีหน้าที่ต้องยื่นใบขนสินค้าขาเข้าซึ่งมี ขั้นตอนดังนี้
หากมีการนำวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ ในการประกอบธุรกิจเข้ามาจากนอกประเทศ เรามีหน้าที่ต้องยื่นใบขนสินค้าขาเข้าซึ่งมี ขั้นตอนดังนี้
จ้างลูกจ้าง ในกรณีที่เรามีลูกจ้าง เราต้องทำการ เสียภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย เพื่อนำส่งกรม สรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไปที่ เราจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างหรือโบนัส ฯลฯ
สำหรับผู้ให้เช่าต้องเสียภาษีเงินได้ ในฐานะที่มีรายได้จากการให้เช่าและต้อง เสียค่าอากรแสตมป์ตามมูลค่าของสัญญาเช่าส่วนสำหรับผู้เช่าเฉพาะกรณีที่เป็นนิติบุคคล การจ่ายค่าเช่าต้องเสียภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่ายด้วยนะ
เราสามารถจำหน่ายได้ทั้งในประเทศ และส่งออกไปขายนอกประเทศ แต่ก็อย่าลืม ชำระภาษี ดังนี้
ต้องยื่นแบบชำระภาษีปีละ 2 ครั้ง ได้แก่
ผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติ- บุคคลต้องยื่นแบบชำระภาษีต่อกรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ ที่สถานประกอบการตั้งอยู่หรือยื่นทางอินเทอร์- เน็ต ปีละ 2 ครั้ง ได้แก่
* โดยเราต้องจัดทำรายงานสินค้าและ วัตถุดิบ รายงานภาษีขายและยื่นแบบภาษี มูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ.30 ในแต่ละเดือน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
เราจะต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งเสียภาษีในอัตราร้อยละ 0 และยื่นใบขนสินค้าขาออกเพื่อผ่านพิธีการ ศุลกากรแบบไร้เอกสาร (Paperless) เพื่อเสีย อากรขาออกตามที่กำหนดนอกเหนือจาก ภาษีเงินได้
เครื่องเขียนและเครื่องใช้ในสำนักงานเป็นสิ่งที่นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน
และบุคคล...
ในปัจจุบันความต้องการใช้ ไม้ยางพารา ทั้งในด้านเป็นวัตถุดิบหรือใน การแป...
คำว่า “แพทย์ทางเลือก” ตามความหมายที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของสำ...
ตลาดผลิตภัณฑ์สบู่ในไทยนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะผกผันเพียงใด แต่มูล...
ซอสปรุงรส เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรุงแต่งรสชาติอาหารของเราให้อร่อยกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมยิ...
เครื่องดื่มประเภท “น้ำชา” นอกจากช่วยดับกระหายคลายง่วงแล้ว ...
ธุรกิจสถานบันเทิงที่มีอาหารและการแสดงเป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น และว...
“ปลาสลิด” จัดเป็นสัตว์น้ำยอดนิยมที่ถูกนำมาแปรรูป ถนอมความส...
"ปลากะตัก" สัตว์น้ำเศรษฐกิจของผู้ประกอบการแนวชายฝั่งอันดามัน...
ปัจจุบันนี้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ต่างต้องช่วยกัน ทำง...
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น” ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากสถานีวิทยุชุมชน เนื่องจากสื่อ โทรทัศน์ส...
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ลำไยอบแห้ง” เป็นหนึ่งในบรรดาของฝากยอดฮ...
ในขั้นตอนการเตรียมธุรกิจร้านขายหนังสือ เราต้องเกี่ยวข้องกับภาษีต่างๆ ดังต่อไปนี้
ยาแผนโบราณ หมายถึง ยาที่มีพืชสมุนไพรเป็นส่วนผสมในกระบวน การผลิต โดยมีการนำพืชสมุนไพรเหล...
"ดอกไม้ประดิษฐ์" งานฝีมือจากสมองและสองมือของคนไทย กลายเป็นอา...
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย "กาแฟ"ก็ยังคงรักษาสถานะเครื่อง ดื่มยอด...
ปลากะตัก” สัตว์น้ำเศรษฐกิจของผู้ประกอบการแนว ชายฝั่งอันดามัน ถือเป็นอาหารสุขภาพชั...
“เครื่องประดับเงิน” เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดจากรุ...
ขนมไทยที่เราคุ้นเคยกันดี นอกจากเป็นของที่มีคุณค่าแล้ว ในเชิงมูลค่า “ขนมไทย”...
ธุรกิจโปรดักชั่นเฮ้าส์ทำหน้าที่ผลิตสื่อมัลติมีเดียซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ราย...